นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในปีนี้กรุงศรีฯมีทำดีลการร่วมทุนและการควบรวมกิจการให้กับธุรกิจมากกว่า 10 ดีล ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในหมวดอาหารและเครื่องดื่มมีขนาดกลาง 1,000-5,000 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (ค่าฟี) ของกรุงศรีในปีนี้สามารถเติบโตได้ 2 หลักเหมือนช่วงปีที่ผ่านมาคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ส่วนความคืบหน้าการซื้อธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีความคืบหน้าไปมากแล้วกว่า 80-90% คาดว่า ดีลดังกล่าวแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 66 ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อขายธุรกิจ หลังจบดีลสมบูรณ์ ธนาคารจึงสามารถแจ้งรายละเอียดอื่นๆ ได้ต่อไป
สำหรับทิศทางสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้ เชื่อว่ามีโอกาสเติบโตต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่กลับมาดีขึ้น ธนาคารจึงวางเป้าหมายสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้ที่ 5% คิดเป็นเงินสินเชื่อปล่อยใหม่ 24,000 ล้านบาท จากยอดสินเชื่อคงค้างในปัจจุบันอยู่ที่ 474,500 ล้านบาท โดยเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อนี้ได้รวมถึงการปล่อยสินเชื่ออีเอสจีด้วย
ทั้งนี้ มองว่า กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มดีที่สามารถผลักดันเป้าหมายสินเชื่อให้เติบโต ได้แก่ กลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม กลุ่มสื่อสาร กลุ่มพลังงาน เป็นต้น ขณะที่กลุ่มที่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ด้านการยอดปล่อยสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ช่วงปีที่ผ่านมา ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อเติบโตได้กว่า 2% พร้อมวางเป้าหมายสนับสนุนโครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน 50,000-100,000 ล้านบาทภายในปี 73คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“ปี 65 ธนาคารประสบความสำเร็จในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมธุรกิจให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ยอดสินเชื่อลูกค้าธุรกิจมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 474,500 ล้านบาท ขณะเดียวกันธนาคารได้ให้ความสำคัญกับแนวคิดการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลสู่ความยั่งยืน หรืออีเอสจี ไฟแนนซิ่งมาตลอด ปีที่ผ่านมา ธนาคารสนับสนุนการเงินเพื่อความยั่งยืนกว่า 35,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นความสำเร็จของกรุงศรีในด้านอีเอสจี ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง”