เจาะธุรกิจตกแต่งภายในรู้จักนวัตกรรม "พรีแฟบ" เจ้าแรกของเมืองไทย

นิยามของคำว่า บ้านหรู ในเชิงการตลาดบ้านหรู หมายถึง ตลาดบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่มีราคาขายมากกว่า 20 ล้านบาทแม้ว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัวในช่วงโควิด-19 ก็ตาม

SHR แต่งตั้ง “ไมเคิล มาร์แชล” นั่งซีอีโอใหม่ สานต่อการขยายธุรกิจโรงแรม

ธนารักษ์ เร่งเปิด “สวนลอยฟ้า” พื้นที่สีเขียวใหญ่สุดบนถนนแจ้งวัฒนะ

โดยปัจจุบัน ทำเลที่มีการซื้อ "บ้านหรูสูงสุด" ข้อมูลในปี 2565 คือ

  • สุขาภิบาล 2 และสุขาภิบาล 3
  • ตลิ่งชัน
  • พัฒนาการ รวมกรุงเทพกรีฑา
  • ศรีนครินทร์ – อุดมสุข
  • บางนา – ตราด

ลูกค้ากลุ่มกำลังสูงเหล่านี้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยทำให้มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง

ภาพ PPTV : ตัวอย่างการใช้ พรีแฟบ ในงานตกแต่ง

และเป็นกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอย ทำเล รวมถึงความเป็นเอกลักษณ์การตกแต่งภายในและดีไซน์ของบ้าน

ข้อมูลจากEconomic Intelligence Center หรือ SCB EICของธนาคารไทยพาณิชย์ มองว่า ผู้ประกอบการที่ลงมาในสนามกลุ่มกำลังซื้อสูงเหล่านี้ แม้ว่าต้นทุนก่อสร้างที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่การแข่งขันในบางพื้นที่มีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ทำให้มีการนำเสนอไอเดียใหม่ๆ ที่คำนึงถึงการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม รวดเร็วไปจนถึงด้านเทคโนโลยี Smart home ใหม่ ๆ มาปรับใช้ เพื่อชูจุดเด่น

วงการ "ธุรกิจตกแต่งภายใน" ก็เช่นกัน

นางนุชนารถรัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบางกอกเดค-คอน จำกัด(มหาชน) หรือ BKD บอกกับ พีพีทีวีเอชดี 36 ในมุมที่สอดคล้องกันว่า เทรนด์บ้านหรู ต้องยอมรับว่าในกลุ่มเศรษฐีให้ความสำคัญกับบ้านมาก ยอมเพื่อจ่ายเงินเพื่อบ้าน ยอมซื้อบ้านแพง แม้ราคาบ้านแพงขึ้น ทำให้มาพร้อมกับงานตกแต่งภายใน ดีไซน์บ้านตอบโจทย์ความต้องการทุกห้อง ทุกมุมเช่น อยากได้ของที่หายาก ทำยาก หรือช่างฝีมือดีเพื่อให้บ้านมีจุดเด่น เพื่อความสุข และความสะดวกสบาย

เดิมที่BKD จับงานตกแต่งภายในกับโปรเจกต์ขนาดใหญ่เป็นหลัก เช่น โรงแรม สำนักงาน โรงพยาบาล เป็นต้น แต่เมื่อแนวโน้มบ้านหรูมาแรง พร้อมๆ กับการตกแต่งภายใน จึงเริ่มหันมาจับตลาดนี้ โดยมีเป้าหมายในอนาคตแบ่งสัดส่วน50:50 กับธุรกิจตกแต่งภายในขนาดใหญ่ซึ่งเป็น Core หลัก ในปัจจุบัน

ชูนวัตกรรม "พรีแฟบ" เข้ามาใช้งานตกแต่งภายในบ้านเป็นวัสดุเรือธงคำพูดจาก เว็บสล็อต มาแรงอันดับ 1

ต้องอธิบายแบบนี้ก่อนว่า พรีแฟบ (PREFAB) คือ การผลิตวัสดุก่อสร้างแต่ละส่วนให้สำเร็จตั้งแต่โรงงานจากนั้นนำมาประกอบหน้างานได้ตามที่วางแผนไว้ทันที โดยใช้ระยะเวลารวดเร็ว ซึ่งนิยมใช้กับในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในการก่อสร้างโครงการบ้าน หรือ อาคาร

แต่BKD หยิบมาพัฒนาเป็นวัสดุเพื่อใช้ในงานตกแต่งภายในเพื่อดีไซน์ห้องต่างๆ ในบ้าน โดยใช้เวลาพัฒนาถึง 4 ปี ด้วยการผลิตวัสดุงานดีไซน์จากโรงงานก่อนนำไปติดตั้งได้ทันที ซึ่งเริ่มต้นตกแต่งภายในครั้งแรกให้กับบ้านของนายสราวุธเสรีธรณกุล หรือ ไฮโซกี้ เป็นการผสมระหว่างตกแต่งภายในด้วยวิธีการดั้งเดิม คือ ประกอบงานดีไซน์หน้างาน 50% เป็นพรีแฟบ 50% และกำลังจะเริ่มต้นใช้นวัตกรรมพรีแฟบแบบ 100% ในการตกแต่งภายในคอนโดมิเนียม 1 ห้อง มูลค่าการตกแต่งรวม 40 ล้านบาท

ยังไม่มีบริษัทไหนทำได้ เราทำได้คนเดียวในเมืองไทย ถือเป็นจุดเด่นในการพัฒนาเรื่องของพรีแฟบ ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ปี ผลตอบรับดีมากซึ่งเราพัฒนาจากโรงงานของเรา

ภาพ PPTV : นางนุชนารถรัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบางกอกเดค-คอน จำกัด(มหาชน) หรือ BKD

"พรีแฟบ" มีจุดเด่นอะไร

นางนุชนารถ บอกว่า ตำหนิน้อยถ้าเจอเปลี่ยนได้ เปลี่ยนง่าย ไม่ต้องเอาสีเข้าไปพ่นในบ้าน ไม่สร้างมลภาวะในบ้าน ตอบโจทย์การตกแต่งภายในได้ดีมากๆ ที่สำคัญ หากวันหนึ่งในอนาคตอีก 5-10 ปี อยากเปลี่ยนดีไซน์บ้านก็สามารถทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็วสามารถยกเปลี่ยนและเอาชิ้นงานใหม่เข้าไปได้เลย คล้ายๆ น็อคดาวน์แต่มีความยากกว่าเพราะเป็นงาน Build-in ที่ขนาดต้องเป๊ะมาก

การนำพรีแฟบเข้ามาในกลุ่มบ้านหรู คือ ลดการทำงานหน้างาน เช่น ใช้เครื่องจักรในการตัดชิ้นส่วน พรีแฟบจะมีขนาดพอดีมาก ไม่มีรอยใดๆ เมื่อเทียบกับหน้างานที่เป็นงานฝีมือ อาจมีเบี้ยว ผิดรูป หรือมีตำหนิ

อย่างไรก็ตาม นางนุชนารถ ยอมรับว่า สำหรับเมืองไทยอาจยังมีข้อจำกัด คนอาจยังไม่คุ้นชินกับการใช้พรีแฟบเพื่อการตกแต่ง แต่จะคุ้นชินกับการขนเครื่องมือไปทำหน้างาน ซึ่งก่อให้เกิดทั้งมลภาวะทางเสียงและฝุ่นจำนวนมาก แต่พรีแฟบมาแก้ปัญหาเหล่านี้ เพราะมีการออกแบบและผลิตจากโรงงานที่เป็นพื้นที่ควบคุม

กลุ่มลูกค้าตกแต่งภายในคอนโดมิเนียมคือโจทย์ที่ท้าทาย

เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา ต่อวันมีเวลาไม่เกิน 16.00 น.ซึ่งพรีแฟบเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ ทำให้เรื่องของเวลาไม่ใช่ข้อจำกัดอีกต่อไป ห้อง 4 ห้อง ใช้เวลา 1 เดือนทำให้มีเวลาในการเตรียมของที่โรงานและจะเริ่มเข้าไปประกอบซึ่งไม่เกิน 1 สัปดาห์

หรือกลุ่มลูกค้าโรงแรมประมาณ 500 ห้อง ให้ความสนใจนวัตกรรมตรงนี้เช่นกันเพราะลดระยะเวลาได้มาก จากเดิมจำนวน 500 ห้อง ใช้เวลาตกแต่งภายในโรงแรมเป็นปี แต่หากทำพรีแฟบตั้งแต่โรงงานพร้อมติดตั้ง จะลดระยะเวลาไปได้ราว 50% ต้นทุนอาจจะเท่าๆ กัน แต่สามารถเปิดให้บริการได้เร็วขึ้นก็ถือว่า WIN WIN รวมถึงสิ่งที่ได้คือความเนี๊ยบ ไม่มีมลภาวะหน้างาน และเปลี่ยนชิ้นงานได้เลยในกรณีที่เจอตำหนิ

 เจาะธุรกิจตกแต่งภายในรู้จักนวัตกรรม "พรีแฟบ" เจ้าแรกของเมืองไทย

น่าจับตาดูว่า "พรีแฟบ" ในงานตกแต่งภายใน จะเป็นนวัตกรรมซึ่งเข้ามามีบทบาทในวงการตกแต่งภายในมากน้อยแค่ไหนในอนาคต

You May Also Like

More From Author